ชาวคิวบาถือเป็นกลุ่มคนนอกทวีปเอเชียเพียงกลุ่มเดียวที่บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก
โดยเริ่มมาจากการนำเข้าข้าวมาเลี้ยงดูแรงงานผิวสีที่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19
ทั้งนี้ คิวบาปลูกข้าวได้เองในปริมาณที่ไม่มากนัก
ทำให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าข้าวเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสหรัฐอเมริกา
โดยในทศวรรษ1930 ร้อยละ 25 ของปริมาณการนำเข้าข้าวทั้งหมดของคิวบามาจากสหรัฐฯ
และเมื่อถึง ค.ศ. 1949 ก็เพิ่มสูงถึงร้อยละ 90[1]
ปัญหาเกิดขึ้นหลังการปฏิวัติในคิวบาเมื่อ ค.ศ. 1959 เนื่องจากสหรัฐฯ งดขายข้าวแก่คิวบา และคิวบาก็พึ่งพาสหภาพโซเวียตได้เฉพาะข้าวสาลีเท่านั้น
ขณะที่ราคาข้าวในตลาดโลกใน ค.ศ. 1962 ยังสูงขึ้นกว่า ค.ศ. 1960
ถึงร้อยละ 20 อีกด้วย ทำให้รัฐบาลของฟิเดล
คาสโตรต้องจัดการปันส่วนข้าวในประชาชนแต่ละคนได้รับข้าวปริมาณ 6 ปอนด์ต่อคนต่อเดือน[2]
สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1964 เมื่อองค์การรัฐอเมริกัน
(The Organization of American States – OAS) มีมติคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อคิวบา
ทำให้คิวบาไม่อาจพึ่งพาการนำเข้าข้าวจากประเทศในลาตินอเมริกาอย่างอุรุกวัยได้อีกต่อไป
ด้วยเหตุนี้ ตลอดครึ่งแรกของทศวรรษ 1960 จีนจึงเป็นผู้ส่งออกข้าวรายสำคัญให้แก่คิวบา
แลกกับการที่คิวบาส่งออกน้ำตาลไปยังจีน และถึงแม้ว่าคิวบาจะเป็นฝ่ายขาดดุลการค้า จีนก็แก้ปัญหาด้วยการให้เงินกู้โดยไม่คิดดอกเบี้ยแก่คิวบาเพื่อชดเชยการขาดดุลดังกล่าว
แต่แล้วความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับคิวบาเมื่อถึงกลางทศวรรษ 1960
ก็ทำให้การค้าข้าวกลายเป็นหนึ่งในประเด็นของความขัดแย้งไปด้วย
คณะบัลเลย์จากคิวบามาเยือนจีนเมื่อ ค.ศ. 1960
ความขัดแย้งระหว่างจีนกับคิวบาว่าด้วยเรื่องการค้าข้าว
หรือที่เรียกกันว่า “สงครามข้าว (rice war)” ปะทุขึ้นเมื่อวันที่
2 มกราคม ค.ศ. 1966 หรือหนึ่งวันก่อนการประชุมความเป็นปึกแผ่นของประชาชนแอฟริกา
เอเชีย และลาตินอเมริกา (The Afro-Asian-Latin American People’s Solidarity
Conference) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า การประชุมไตรทวีป (The
Tricontinental Congress) ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงฮาวานา อันเป็นการประชุมผู้แทนเกือบ
600 คนจากขบวนการฝ่ายซ้ายและขบวนการชาตินิยมในลาตินอเมริกา
แอฟริกา และเอเชียรวม 82 ประเทศ โดยฟิเดล คาสโตรเปิดเผยว่าตนเองได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่กระทรวงการค้าต่างประเทศของคิวบาว่า
จีนขอปรับลดปริมาณการนำเข้าน้ำตาลจากคิวบาใน ค.ศ. 1966 จากเดิมที่คิวบาเสนอไปว่า
800,000 ตัน และยังขอปรับลดปริมาณการส่งออกข้าวมายังคิวบาลงเกือบร้อยละ
50 จากเดิมใน ค.ศ. 1965 ที่เคยอยู่ที่ 250,000
ตัน[3]
จีนออกมาตอบโต้คิวบาในวันที่
10 มกราคม ค.ศ. 1966 ผ่านหนังสือพิมพ์ ประชาชนรายวัน
ซึ่งเผยแพร่บทสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่กระทรวงการค้าต่างประเทศของจีนที่ให้ข้อมูลว่า ทางการคิวบาขอให้จีนส่งข้าวให้แก่คิวบา
285,000 ตันใน ค.ศ. 1966 แต่จีนให้ได้เพียง
135,000 ตันเท่านั้น เพราะแม้จีนจะผลิตข้าวได้มากใน ค.ศ. 1965
แต่ความต้องการบริโภคข้าวในประเทศก็เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังต้องส่งข้าวไปช่วยเหลือประเทศอื่นด้วย[4]
ทั้งนี้การที่จีนเคยส่งออกข้าวมากเป็นพิเศษแก่คิวบาใน ค.ศ. 1965 คือ 250,000 ตันก็เป็นการพิจารณาแบบปีต่อปี
โดยที่จีนไม่เคยสัญญาว่าจะส่งข้าวในปริมาณมากเช่นนั้นแก่คิวบาตลอดไปทุกปี อีกทั้งปริมาณข้าว
135,000 ตันที่จีนตกลงจะส่งให้คิวบาใน ค.ศ. 1966 ก็เป็นปริมาณเดียวกับที่เคยส่งให้ใน ค.ศ. 1964[5]
หลังการตอบโต้จากจีน
หนังสือพิมพ์ แกรนมา (Granma) ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์คิวบาฉบับวันที่
12 มกราคม ค.ศ. 1966 ได้เผยแพร่คำแถลงของกระทรวงการค้าต่างประเทศของคิวบาซึ่งระบุว่า
ตัวเลขที่จีนยกมาข้างต้นนั้นไม่ถูกต้อง และหากยอมตามความต้องการของจีนในที่จะส่งออกข้าวมายังคิวบาเพียง
135,000 ตันใน ค.ศ. 1966 ก็จะทำให้มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศนั้นดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดนับจาก
ค.ศ. 1961 รวมทั้งยังก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อการปันส่วนข้าวแก่ประชาชนในคิวบาอีกด้วย[6]
คำแถลงเช่นนี้ทำให้ในวันที่ 31 มกราคมของปีนั้น
หนังสือพิมพ์ ประชาชนรายวัน ของทางการจีนได้ออกมาตอบโต้คิวบาอีกครั้งโดยระบุว่า
หากช่วง ค.ศ. 1963 -1964 ที่จีนส่งออกข้าวไปยังคิวบาปีละ 135,000
ตันนั้นไม่ก่อให้เกิดปัญหาการปันส่วนข้าวในคิวบาแล้ว การที่จีนใน
ค.ศ. 1966 จะส่งออกข้าวไปยังคิวบาในปริมาณเดียวกันจะก่อให้เกิดปัญหาการปันส่วนข้าวได้อย่างไร[7]
ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าการที่จีนขอลดปริมาณการส่งออกข้าวไปยังคิวบาใน
ค.ศ. 1966 โดยกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อ ค.ศ. 1964
นั้นเกิดจากความต้องการบริโภคข้าวในประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นและความจำเป็นในการส่งข้าวไปช่วยเหลือประเทศอื่นตามที่จีนอ้างจริงหรือไม่
หรือว่าเกิดจากความไม่พอใจของจีนต่อพฤติกรรมของฟิเดล คาสโตรที่อิงเข้าหาสหภาพโซเวียตอย่างชัดเจนใน
ค.ศ. 1965 แต่สิ่งหนึ่งที่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดก็คือ
ความไม่พอใจของจีนในการที่ฟิเดล คาสโตรนำปัญหาเรื่องข้าวไปเปิดเผยต่อสาธารณชน ดูได้จากการตอบโต้ของทางการจีนเมื่อวันที่
10 มกราคม ค.ศ. 1966 ซึ่งระบุว่า
การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับคิวบาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกปี
และทุกๆ ปีก็มีความเห็นที่แตกต่างกันในระหว่างการเจรจา แต่ว่าในอดีตนั้นนายกรัฐมนตรีคาสโตรไม่เคยทำเหมือนที่ทำในปัจจุบัน
เหตุใดอยู่ๆ เขาต้องยกเรื่องนี้ขึ้นพูดเป็นพิเศษก่อนหน้าการประชุมความเป็นปึกแผ่นของประชาชนสามทวีปที่กรุงฮาวานาด้วย
ประเด็นดังกล่าวน่าคิดมาก[8]
ต่อมาเมื่อคิวบาตอบโต้จีนในประเด็นเรื่องข้าวเมื่อวันที่
12 มกราคมของปีเดียวกันแล้ว จีนก็ได้ตอบโต้คิวบาอีกครั้งในวันที่
31 มกราคม ดังรายละเอียดตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น
โดยในคำตอบโต้ดังกล่าวจีนก็ยังคงตั้งข้อสงสัยเช่นเดิมว่า
กระทรวงการค้าต่างประเทศของคิวบาไม่ยอมตอบคำถามสำคัญ
นั่นคือ เพราะเหตุใดก่อนการประชุมความเป็นปึกแผ่นของประชาชนแอฟริกา เอเชีย
และลาตินอเมริกา นายกรัฐมนตรีคาสโตรจึงนำเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับคิวบาสำหรับ
ค.ศ. 1966 ขึ้นมาเปิดเผยอย่างกระทันหันต่อสาธารณชน
โดยเป็นการกระทำฝ่ายเดียวและโป้ปดมดเท็จ ทั้งๆ ที่การเจรจาดังกล่าวยังไม่เสร็จสิ้น[9]
การที่ฟิเดล
คาสโตรนำปัญหาเรื่องข้าวมาเปิดเผยในวงกว้างได้สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้กับจีน และทำให้ผู้นำของจีนไม่อาจใช้การอดทนอดกลั้นอันแนวปฏิบัติที่เคยให้ไว้กับหวังโย่วผิง
เอกอัครรัฐทูตจีนประจำกรุงฮาวานาเมื่อปลาย ค.ศ. 1965 ได้อีกต่อไป
โดยในวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1966 รายงานข่าวของสำนักข่าวซินหัวระบุว่า
ฟิเดล คาสโตรเป็นจอมโกหกและเป็นอปุสรรคในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับคิวบา[10]
และในเดือนนั้นเอง จีนได้ตัดความสัมพันธ์ในระดับพรรคต่อพรรคกับคิวบา[11]
การกล่าวโจมตีกันและกันระหว่างจีนกับคิวบายังคงดำเนินต่อไปตลอดไตรมาสแรกของ
ค.ศ. 1966 โดยในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ฟิเดล
คาสโตรกล่าวคำปราศรัยซึ่งนอกจากจะโจมตีจีนเรื่องการค้าข้าวแล้ว เขายังได้นำเอาอีกประเด็นหนึ่งขึ้นมาเปิดเผยต่อสาธารณะ
นั่นคือ ปฏิบัติการโฆษณาชวนเชื่อของจีนบนแผ่นดินคิวบา โดยเขาระบุว่าสาเหตุที่ต้องเรียกอุปทูตจีนเข้าพบเมื่อวันที่
14 กันยายน ค.ศ. 1965 นั้นเป็นเพราะได้รับรายงานว่าจีนกำลังแจกจ่ายสิ่งพิมพ์ไปยังเจ้าหน้าที่ในกองทัพคิวบา
เขาจึงขอให้จีนยุติการโฆษณาชวนเชื่อในคิวบาทันที แต่จีนก็ไม่ทำตามคำร้องขอ และนับจากนั้นจนถึงเดือนมกราคม
ค.ศ. 1966 จีนยังคงส่งสิ่งพิมพ์มายังคิวบาเพิ่มอีก 58,041 ฉบับ[12]
ขณะที่จีนก็ได้ออกมาตอบโต้ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ผ่านหนังสือพิมพ์
ประชาชนรายวัน โดยตั้งคำถามว่า เหตุใดคิวบาจึงไม่อนุญาตให้จีนทำเช่นนั้น แต่กลับอนุญาตให้สหภาพโซเวียตเผยแพร่สิ่งพิมพ์ที่มีเนื้อหาโจมตีจีนบนแผ่นดินคิวบาได้[13]
ต่อมาในวันที่ 13 มีนาคม ฟิเดล คาสโตรได้กล่าวคำปราศรัย ณ
มหาวิทยาลัยฮาวานาโดยระบุว่าเหมาเจ๋อตงเป็น “คนโง่ผู้ชรา (senile idiot)” รวมทั้งยังแนะนำให้เหมาอ่านหนังสือ วิภาษวิธีแห่งธรรมชาติ (The
Dialectics of Nature) ของฟรีดริช เองเกลส์ (Friedrich Engels)
เพื่อจะได้เข้าใจว่าแม้แต่ดวงอาทิตย์ก็มีวันดับ[14]
ซึ่งเป็นการวิจารณ์ลัทธิบูชาผู้นำของเหมาที่กำลังจะนำไปสู่การปฏิวัติวัฒนธรรมในกลางปีนั้นนั่นเอง
ขณะที่เหมาก็กล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการกรมการเมืองในวันที่ 20 ของเดือนเดียวกันว่า “พวกคนทรยศและคนผ่าเหล่ามักจะต่อต้านจีนอยู่เสมอ
ธงของเราจะต้องใหม่ มีสีสด และไม่เปรอะเปื้อน
คาสโตรนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากคนเลวที่อยู่ในตำแหน่งสำคัญ”[15]
---------------------------------------------------
[1] Halperin, ibid., 197.
[2] Ibid., 197-198.
[3] Johnson, ibid., 165; Peter Cheng, ibid., 213.
[4] เข้าใจว่าหมายถึงการส่งข้าวไปช่วยเวียดนามเหนือ
เพราะสงครามเวียดนามกำลังทวีความเข้มข้นขึ้นหลังกรณีอ่าวตังเกี๋ย (The
Tonkin Gulf Incident) เมื่อ ค.ศ. 1964
[5] Peking Review, 14 January 1966, 21-23.
[6] “Quarterly Chronicle and Documentation,” in The
China Quarterly 26 (April-June 1966): 220; Peking Review, 4
February, 1966, 15-16.
[7] Ibid., 16.
[8] Peking Review, 14 January 1966, 23.
[9] Peking Review, 4 February 1966, 15.
[10] Peter
Cheng, ibid., 214.
[11] เหมาเซียงหลิน, เรื่องเดียวกัน, 38.
[12] “Castro Statement on Cuban-CPR Relations, February 6,
1966,” in Castro Speech Database http://lanic.utexas.edu/project/castro/db/1966/19660206.html;
accessed 9 March 2017.
[13] Peking Review, 25 February 1966, 13-14.
[14] Yinghong Cheng, ibid., 112.
[15] Mao Tse-tung, “Talk At The Enlarged Meeting Of The
Political Bureau, March 20, 1966,” in Selected Works of Mao Tse-tung Vol.
IX, available from
https://www.marxists.org/reference/archive/mao/selected-works/volume-9/mswv9_55.htm,
accessed 3 February 2017.
7 ความคิดเห็น:
สวัสดีฉันเป็นผู้ให้กู้เงินส่วนตัวที่ลงทะเบียนแล้ว เราให้สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชน บริษัท ที่ต้องปรับปรุงสถานะทางการเงินของตนทั่วโลกโดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นอัตราต่ำสุด 2% ภายในหนึ่งปีถึง 30 ปีระยะเวลาการชำระคืนไปยังส่วนใดส่วนหนึ่งของโลก เราให้เงินกู้ยืมในช่วงของ€ 5,000 ถึง 100,000,000 ยูโร สินเชื่อของเราได้รับการประกันเป็นอย่างดีเพื่อความปลอดภัยสูงสุดคือความสำคัญของเรา ผู้สนใจสามารถติดต่อเราได้ทางอีเมล: (24hourstloancompany1@gmail.com หรือ info@24hoursloan.online)
รับสินเชื่อวันนี้ในอัตราที่ต่ำนำไปใช้ในขณะนี้สินเชื่อจะได้รับในอัตรา 2% ใช้ตอนนี้สามารถเพิ่มธุรกิจของคุณให้มากขึ้น เราจะนำเสนอสินเชื่อเพื่อธุรกิจและบุคคลถ้าคุณต้องการสินเชื่อเพื่อเริ่มต้นธุรกิจหรือเงินกู้เพื่อชำระค่าใช้จ่ายจะติดต่อเราผ่านทาง (georgeanderson.loanfirm255@gmail.com) และได้รับเงินกู้จาก บริษัท ของเรา ... ฉันให้บริการสินเชื่อที่ดีที่สุด
ข้อเสนอเงินกู้.
คุณต้องการเงินกู้ยืมสำหรับโครงการการลงทุนเงินกู้ส่วนบุคคลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสินเชื่อนักศึกษาสินเชื่อรวมและโครงการต่างๆหรือไม่? คุณต้องการสินเชื่อเพื่อเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็กขนาดกลางหรือใหญ่หรือไม่? คุณต้องการเงินกู้เพื่อสร้างบ้านหรือสินเชื่อรถยนต์? คุณต้องการเช่าอุปกรณ์เครื่องใช้หรือไม่? ผู้ให้บริการเครดิต George Anderson ให้คำตอบทั้งหมดของคุณเกี่ยวกับปัญหาเราให้ความสนใจ 2% ธุรกรรมของเรารวดเร็วปลอดภัยและสะดวก ใครอยากได้รับเครดิตจากเราโปรดติดต่อเรา (georgeanderson.loanfirm255@gmail.com)
ข้อเสนอเงินกู้.
Do you need loans for projects, investment, personal loans, housing loans, student loans, consolidation loans and various projects? Do you need credit to start a small, medium or large business? Do you need a loan to build a house or car loan? Do you need a rental to buy machine equipment? George Anderson Credit Provider gives you all your answers to the problem, we provide 2% interest, our transactions are fast, safe and convenient. who would like to receive credit from us, please contact us (georgeanderson.loanfirm255@gmail.com)
Loan offer.
สมัครสินเชื่อส่วนบุคคลหรือธุรกิจที่ง่ายดอกเบี้ย 2% รับข้อมูลเพิ่มเติมหากสนใจทางอีเมล: (georgeanderson.loanfirm255@gmail.com)
ข้อเสนอเงินกู้.
You need an urgent loan? Contact: (georgeanderson.loanfirm255@gmail.com) For further information on the loan.
Loan Offer.
สวัสดี!
ฉันชื่อ Claudia Mölleken ฉันเห็นความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับเงินกู้จากชายผู้เกรงกลัวพระเจ้าชื่อ Gerard w แล้ว ฉันจึงตัดสินใจสมัครตามคำแนะนำของพวกเขา และเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ฉันยืนยันจำนวนเงินทั้งหมดที่ฉันขอในบัญชีธนาคารส่วนตัวของฉันเอง สำหรับ. นี่เป็นข่าวดีจริงๆ และฉันกำลังแนะนำทุกคนที่ต้องการเงินกู้จริงให้สมัครผ่านอีเมลของพวกเขา (thompson.loanservice@gmail.com) ตอนนี้ฉันมีความสุขที่ได้รับเงินกู้ตามที่ขอแล้ว
สวัสดี!
ฉันชื่อ Claudia Mölleken ฉันเห็นความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับเงินกู้จากชายผู้เกรงกลัวพระเจ้าชื่อ Gerard w แล้ว ฉันจึงตัดสินใจสมัครตามคำแนะนำของพวกเขา และเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ฉันยืนยันจำนวนเงินทั้งหมดที่ฉันขอในบัญชีธนาคารส่วนตัวของฉันเอง สำหรับ. นี่เป็นข่าวดีจริงๆ และฉันกำลังแนะนำทุกคนที่ต้องการเงินกู้จริงให้สมัครผ่านอีเมลของพวกเขา (thompson.loanservice@gmail.com) ตอนนี้ฉันมีความสุขที่ได้รับเงินกู้ตามที่ขอแล้ว
แสดงความคิดเห็น