ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ
ในช่วง ค.ศ. 1999
– 2011 เกาหลีเหนือยังคงประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ดูได้จากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่เติบโตน้อยและติดลบในบางปี
(ดูตารางที่ 8) ในช่วงเวลาดังกล่าว จีนยังคงบทบาทเป็นเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือเช่นเดียวกับทศวรรษก่อนหน้านั้น
โดยมีบทบาททั้งการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน
และการชักจูงให้เกาหลีเหนือปฏิรูปเศรษฐกิจ
ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ
จีนให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจของจีนแก่เกาหลีเหนือเป็นจำนวนมากทั้งในลักษณะของเงินให้เปล่า
อาหาร และพลังงาน อย่างไรก็ตาม ทางการจีนไม่เคยเปิดเผยตัวเลขการให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการ
ตัวเลขส่วนใหญ่จึงเป็นข้อมูลของหน่วยงานนอกประเทศจีน (ดูตารางที่
9, 10 และ 11) ซึ่งรวบรวมตัวเลขจากรายงานข่าวของสื่อมวลชน
ดังปรากฏรายงานข่าวว่าในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1999 เมื่อคิมยองนัมเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง
จีนได้มอบเมล็ดธัญพืชจำนวน 150,000 ตันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ
และถ่านหินอีก 40,000 ตันแก่เกาหลีเหนือเพื่อการผลิต[1] และในการเดินทางเยือนเกาหลีเหนือของเจียงเจ๋อหมินเมื่อเดือนกันยายน
ค.ศ. 2001 เขาได้ให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนือด้านอาหารรวม
200,000 ตัน และน้ำมันดีเซลอีก 30,000 ตัน[2]ต่อมาในเดือนเมษายน
ค.ศ. 2002 ซึ่งเป็นโอกาสครบรอบวันเกิด 90 ปีของคิมอิลซุงผู้ล่วงลับ จีนได้มอบเงินให้เปล่าเพื่อช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่เกาหลีเหนืออีกเป็นจำนวน
6 ล้านเหรียญสหรัฐ[3] นอกจากนี้ ในบางครั้งจีนยังใช้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเพื่อเป็นแรงจูงใจให้เกาหลีเหนือหันมาให้ความร่วมมือในการแก้ไขวิกฤตการณ์นิวเคลียร์อีกด้วย
ดังเช่นการสร้างโรงงานผลิตแก้วมูลค่า 24 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่เกาหลีเหนือเมื่อ
ค.ศ. 2003 เพื่อแลกกับการที่เกาหลีเหนือยอมเข้าประชุมษัฏภาคีรอบที่
2[4] และมีนักวิชาการที่ใช้สถิติสะท้อน (mirror statistics) เพื่อชี้ให้เห็นว่าตัวเลขการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจของจีนแก่เกาหลีเหนือนั้นน่าจะมากกว่าที่ปรากฏในรายงานข่าว
เพราะตัวเลขเท่าที่ปรากฏไม่น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือดำเนินไปได้
ตัวเลขที่ไม่ปรากฏจึงน่าจะมาจากจีนเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากเกาหลีเหนือไม่มีที่พึ่งอื่นๆ
มากนัก[5] ขณะเดียวกันก็มีรายงานข่าวว่าเกาหลีเหนือได้ตอบแทนน้ำใจของจีนอยู่บ้างเป็นจำนวนเงินไม่มาก
เช่นเมื่อจีนต้องเผชิญกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่มณฑลเสฉวนในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2008
เกาหลีเหนือได้มอบเงินช่วยเหลือแก่จีนจำนวน 100,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งหลิวเสี่ยวหมิง เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงเปียงยางได้แสดงความชื่นชมการให้ความช่วยเหลือแก่จีนทั้งๆ
ที่เกาหลีเหนือเองก็ต้องการความช่วยเหลือเช่นกัน[6]
อย่างไรก็ตาม
จีนตระหนักดีว่าบทบาทในการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่เกาหลีเหนือของตนนั้นอาจถูกมองว่าเป็นการต่ออายุให้กับระบอบเผด็จการของคิมจองอิล
ด้วยเหตุนี้จีนจึงเน้นย้ำว่าความช่วยเหลือดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวเกาหลีเหนือ
ดังที่เวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนได้บอกกับนักข่าว ณ กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 10
ตุลาคม ค.ศ. 2009 ว่า
จีนพยายามอย่างแข็งขันที่จะให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์และมีการประชุมษัฏภาคีอีกครั้ง
ในระหว่างนี้จีนซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็ปฏิบัติตามมติคณะมนตรีมาโดยตลอด
ส่วนการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่เกาหลีเหนือก็เป็นไปเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลัก
ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมติของคณะมนตรี[7] (เน้นโดยผู้วิจัย)
การค้า
จีนเมื่อเข้าสู่ทศวรรษ 2000 ยังคงสถานะเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือในยุคหลังสงครามเย็นเอาไว้เฉกเช่นในทศวรรษ
1990 โดยการค้าระหว่างสองฝ่ายใน ค.ศ. 2010 คิดเป็นมูลค่า 3,465 ล้านเหรียญสหรัฐ (ดูตารางที่ 12) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการค้าทางบกผ่านสะพานมิตรภาพจีน
– เกาหลีเหนือซึ่งทอดข้ามแม่น้ำยาลู่ที่เมืองตานตง (Dandong) มณฑลเหลียวหนิง อันเป็นเมืองชายแดนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งข้อมูลใน
ค.ศ. 2012 ระบุว่าร้อยละ 70 ของการค้าระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือกระทำผ่านเมืองดังกล่าว[8]
เมื่อพิจารณาจากตัวเลขทางการค้าระหว่างสองฝ่ายในทศวรรษ
2000 ตามตารางที่ 12
แล้วจะพบข้อที่น่าสังเกตรวม 2 ประการ ประการแรก
เกาหลีเหนือมีแนวโน้มที่จะพึ่งพาการค้ากับจีนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยใน ค.ศ. 2000
การค้ากับจีนคิดเป็นร้อยละ 20.4 ของการค้าระหว่างประเทศของเกาหลีเหนือทั้งหมด
จากนั้นเพิ่มสูงขึ้นจนถึงร้อยละ 57 ใน ค.ศ. 2010 ทั้งนี้เป็นผลมาจากปัจจัยสำคัญคือ
(1) ความตกต่ำของความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับญี่ปุ่นอันเนื่องมาจากการลักพาตัวชาวญี่ปุ่น
13 คนและวิกฤตการณ์นิวเคลียร์จนทำให้ญี่ปุ่นใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือหลายระลอกตลอดทศวรรษ
2000 และ (2) การที่รัฐบาลใหม่ของเกาหลีใต้ใน
ค.ศ. 2008 นำโดยประธานาธิบดีลีเมียงบัค (Lee Myung Bak)
ยุตินโยบายตะวันฉายที่ใช้กับเกาหลีเหนือมาตั้งแต่ ค.ศ. 1998[9] การสูญเสียคู่ค้าอย่างญี่ปุ่นและการค้ากับเกาหลีใต้ที่ลดลงจึงเป็นที่มาของการที่เกาหลีเหนือต้องพึ่งพาการค้ากับจีนมากยิ่งขึ้น
ตรงข้ามกับจีนซึ่งพึ่งพาการค้ากับเกาหลีเหนือน้อยมาก โดยใน ค.ศ. 2009 เกาหลีเหนือเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 82 และตลาดนำเข้าอันดับที่
77 ของจีน[10] ประการที่สอง เกาหลีเหนืออยู่ในสถานะเสียเปรียบดุลการค้ากับจีนอยู่ตลอดเวลา
อันเป็นผลมาจากการที่เกาหลีเหนือมีโครงสร้างทางอุตสาหกรรมที่ล้าหลังจนส่งออกไปยังจีนได้แต่เพียงสินค้าจำพวกถ่านแอนทราไชต์
(anthracite) แร่เหล็ก และอาหารทะเล
ขณะต้องนำเข้าสินค้าจำนวนมากจากจีนตั้งแต่เครื่องใช้ในครัวเรือนไปจนถึงเครื่องจักรและน้ำมัน[11] ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นการพึ่งพากันและกันแบบไม่สมดุลในทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับเกาหลีเหนืออย่างชัดเจน
-----------------------------
[1] “Pyongyang and Beijing Vow to Further Strengthen
Traditional Friendship,” People’s Korea 98 (9 June 1999), available from
http://www1.korea-np.co.jp/pk/098th_issue/99060907.htm, accessed 21 April 2013.
[2] “President Jiang Zemin Revisits DPRK in 11 Years:
Traditional Ties Revived to Match New century,” People’s Korea 168 (15
September 2001), available from
http://www1.korea-np.co.jp/pk/168th_issue/2001091501.htm, accessed 21 April
2013.
[3] “China to Offer $6 Mil. Grant Aid to DPRK,” People’s
Korea 179 (27 April 2002), available from
http://www1.korea-np.co.jp/pk/179th_issue/2002042707.htm, accessed 21 April
2013.
[4] “China Offers Gratis Glass Plant
to DPRK,” People’s Korea 207 (31 July 2004), available from http://www1.korea-np.co.jp/pk/207th_issue/2004073104.htm,
accessed 21 April 2013.
[5] Jaewoo Choo, “Mirroring North Korea’s Growing
Economic Dependence on China: Political Ramifications,” Asian Survey 48
(March/April 2008): 364.
[6] “DPRK mourns China earthquake victims,” People’s
Daily, 19 May 2008, available from http://english.people.com.cn/90001/90776/6414064.html,
accessed 27 May 2014.
[7] “เวินเจียเป่า: จงฟางจือฉือเฉาเหม่ยจิ้นสิงเริ่นเจินเจี้ยนเส้อซิ่งเตอะตุ้ยฮว่า,”
(เวินเจียเป่าระบุ
จีนสนับสนุนให้เกาหลีเหนือกับสหรัฐอเมริกาเจรจากันอย่างจริงจังและสร้างสรรค์)
สำนักข่าวจงซิน, 10 ตุลาคม 2009, สืบค้นจาก
http://www.chinanews.com/gn/news/2009/10-10/1902937.shtml,
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2014.
[8] “DPRK – China to Hold Joint Trade Fair,” DPRK
Business Monthly 3, No. 2 (June 2012): 2, available
from https://vtncankor.files.wordpress.com/2012/07/monthlyjune12.pdf, accessed 27 May 2014.
[9] Seung-Hyun Yoon and Seung-Ook Lee, “From old comrades
to new partnerships: dynamic development of economic relations between China
and North Korea,” The Geographical Journal 179, no. 2 (March 2013): 22.
[10] Dick K. Nanto and Mark E. Manyin, “China-North Korea
Relations,” CRS Report for Congress, 28 December 2010, available from
https://www.fas.org/sgp/crs/row/R41043.pdf, accessed 27 May 2014.
[11] Yoon and Lee, “From old comrades to new partnerships,”
22.
ตารางที่
8
อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
ช่วง
ค.ศ. 2000 – 2010
(หน่วย:
ร้อยละ)
ค.ศ.
|
เกาหลีเหนือ
|
เกาหลีใต้
|
2000
|
0.4
|
8.8
|
2001
|
3.8
|
4.0
|
2002
|
1.2
|
7.2
|
2003
|
1.8
|
2.8
|
2004
|
2.1
|
4.6
|
2005
|
3.8
|
4.0
|
2006
|
-1.0
|
5.2
|
2007
|
-1.2
|
5.1
|
2008
|
3.1
|
2.3
|
2009
|
-0.9
|
0.3
|
2010
|
-0.5
|
6.2
|
ที่มาของข้อมูล: เว็บไซต์ธนาคารกลางของเกาหลีใต้ http://www.bok.or.kr/eng/engMain.action, สืบค้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2014
ตารางที่
9
เงินให้เปล่าที่จีนให้แก่เกาหลีเหนือช่วง
ค.ศ. 1999 – 2004
(หน่วย:
ล้านเหรียญสหรัฐ)
ค.ศ.
|
1999
|
2000
|
2001
|
2002
|
2003
|
2004
|
จำนวน
|
48.4
|
27.6
|
69.1
|
16.0
|
10.9
|
14.6
|
ที่มาของข้อมูล: ธนาคารกลางของเกาหลีใต้ อ้างถึงใน Jaewoo Choo,
“Mirroring North Korea’s Growing Economic Dependence on China: Political
Ramifications,” Asian Survey 48 (March/April 2008): 364.
ตารางที่
10
ความช่วยเหลือด้านอาหารของจีนแก่เกาหลีเหนือช่วง
ค.ศ. 1999 – 2005
(หน่วย:
ล้านตัน)
ค.ศ.
|
1999
|
2000
|
2001
|
2002
|
2003
|
2004
|
2005
|
จำนวน
|
0.15
|
0.04
|
0.20
|
0.33
|
0.22
|
0.13
|
0.51
|
ที่มาของข้อมูล: กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ อ้างถึงใน Jaewoo
Choo, “Mirroring North Korea’s Growing Economic Dependence on China: Political
Ramifications,” Asian Survey 48 (March/April 2008): 352.
ตารางที่
11
ความช่วยเหลือด้านพลังงานของจีนแก่เกาหลีเหนือช่วง
ค.ศ. 1999 – 2003
(หน่วย:
ตัน)
ค.ศ.
|
ประเภทของพลังงาน
|
ปริมาณ
|
1999
|
ถ่านโค้ก
|
400,000
|
2000
|
น้ำมันดีเซล
|
14,000
|
2001
|
น้ำมันดีเซล
|
45,000
|
2002
|
น้ำมันดีเซล
ถ่านโค้ก
|
25,000
22,000
|
2003
|
น้ำมันดีเซล
|
10,000
|
ที่มาของข้อมูล: กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ อ้างถึงใน Jaewoo
Choo, “Mirroring North Korea’s Growing Economic Dependence on China: Political
Ramifications,” Asian Survey 48 (March/April 2008): 360.
ตารางที่
12
ปริมาณการค้าระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือช่วง
ค.ศ. 2000 – 2010
(หน่วย:
ล้านเหรียญสหรัฐ)
ค.ศ.
|
จีนนำเข้าจากเกาหลีเหนือ
|
จีนส่งออกไปเกาหลีเหนือ
|
มูลค่ารวม
|
ร้อยละของการค้าระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือต่อการค้ากับต่างประเทศของเกาหลีเหนือทั้งหมด
|
2000
|
37.2
|
450.8
|
488.0
|
20.4
|
2001
|
166.8
|
570.7
|
737.5
|
27.6
|
2002
|
270.7
|
467.3
|
738.0
|
25.4
|
2003
|
395.3
|
627.6
|
1022.9
|
32.8
|
2004
|
585.7
|
799.5
|
1385.2
|
39.0
|
2005
|
499.2
|
1081.2
|
1580.4
|
39.0
|
2006
|
467.7
|
1231.9
|
1699.6
|
39.1
|
2007
|
581.5
|
1392.5
|
1974.0
|
41.7
|
2008
|
754
|
2033.2
|
2787.2
|
49.5
|
2009
|
793
|
1887.7
|
2680.7
|
52.6
|
2010
|
1187.8
|
2277.8
|
3465.6
|
57.0
|
ที่มาของข้อมูล: กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้, องค์การส่งเสริมการค้าและการลงทุนของเกาหลีใต้
และสถาบันวิจัยฮุนได อ้างถึงใน Seung-Hyun
Yoon and Seung-Ook Lee, “From old comrades to new partnerships: dynamic development
of economic relations between China and North Korea,” The Geographical
Journal 179, no. 2 (March 2013): 22.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น